รองเท้าวิ่ง Brooks Adrenaline GTS 19
ขอนำเสนอกันอีกสักครั้งกับแบรนด์ Brooks ด้วยรองเท้ารุ่น Adrenaline GTS 19 แค่อ่านจากชื่อรุ่นก็รู้สึกได้ถึงเลือดที่สูบฉีดไปทั่วร่างกาย อยากเอารองเท้ามาใส่แล้วออกไปวิ่งจริง ๆ ครับ โดยรองเท้าคู่นี้ มาพร้อมกับเทคโนโลยีเหมือนซีรีย์ BrooksGhost นั่นก็คือ BioMoGo DNA และ DNA LOFT ที่ให้ความนุ่มสบายที่ฝ่าเท้า และตอบสนองต่อแรงส่งเวลาเท้าวิ่งลงบนพื้นได้ดี ช่วยในการสปริงตัวขึ้นมา ทำให้วิ่งได้สนุกมากขึ้น
แต่ที่ซีรีย์นี้ มีความพิเศษกว่าคือ มีเทคโนโลยี GuideRails ที่ช่วยซัพพอร์ตหัวเข่าได้ดีกว่า และลดโอกาสการเกิดการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่า ใครที่ชอบวิ่งแต่กลัวหัวเข่าจะมีปัญหา หรือหัวเข่าไม่ค่อยดีอยู่แล้ว เราขอแนะนำให้ลองใช้ Brooks Adrenaline GTS 19 มาใส่วิ่งเลยครับ นอกเหนือจากนี้ ยังเสริมด้วย ส่วนบนอัปเปอร์ที่ทำมาจากตาข่ายวิศวกรรมและ 3D FIT Print ที่นุ่มสบายต่อหลังเท้า และยังช่วยในการกระชับและระบายอากาศ และถ้าใครที่ไม่ชอบความจำเจ ทาง Brooks ก็จัดให้ได้ครับ เพราะ Brooks Adrenaline GTS 19 มีหลากหลายสีสันให้เลือกตามความชอบกันเลยทีเดียว อยากได้สีโทนไหนก็มีหมด
แต่น่าเสียดายที่รองเท้าคู่นี้ออกมานานมากแล้ว ทำให้สีที่เหลืออยู่ในปัจจุบันอาจจะไม่เหลือสีที่ชอบนะครับ แต่ถ้าไม่เน้นเรื่องสีสัน ก็ถือว่าเป็นรองเท้าวิ่งอีกคู่ ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก และยังเป็นรองเท้าที่ผู้ใช้หลายรายบอกว่า พอสวมใส่แล้วนุ่มสบายมาก กระชับเท้า ไม่หลวมไม่แน่นจนเกินไป ตัวผ้าที่ใช้ทำรองเท้าก็ไม่ระคายเคืองต่อผิวเท้าเลย แต่มีนักวิ่งบ้างคนบอกว่า ถ้าใช้วิ่งบ่อย ๆ ใช้งานอย่างหนัก ตัวพื้นรองเท้าจะหลุดออกจากรองเท้า
ราคาโดยประมาณ | 5,500 บาท |
การใช้งาน | ใส่ตลอดวัน, วิ่งจ็อกกิ้ง |
ระยะทางในการวิ่ง | วิ่งประจำวัน, วิ่งระยะไกล, วิ่งมาราธอน |
น้ำหนักของรองเท้า | ผู้ชาย 312 g และ ผู้หญิง 272 g |
ความหนาจากส้นเท้าถึงปลายเท้า | ผู้ชาย 12 mm และ ผู้หญิง 12 mm |
ความหนาของส้นเท้าจากพื้น | ผู้ชาย 30 mm และ ผู้หญิง 30 mm |
ความหนาของปลายเท้าจากพื้น | ผู้ชาย 18 mm และ ผู้หญิง 18 mm |
ความกว้าง | ผู้ชาย Narrow, Normal, Wide, X-Wide และ ผู้หญิง Narrow, Normal, Wide, X-Wide |
วันที่วางจำหน่าย | Nov 2018 |
รองเท้าวิ่ง Hoka One One Carbon X
มาดูรองเท้าวิ่งแบรนด์ที่ไม่คุ้นหูคนไทยกันเท่าไร แต่ได้รับความนิยมที่เมืองนอกมากครับ กับแบรนด์ Hoka One One ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เน้นในเรื่องของรองเท้าวิ่งโดยเฉพาะ โดยรุ่นที่เราอยากแนะนำก็คือ รุ่น Carbon X เพราะเป็นรุ่นที่มีเทคโนโลยีสำหรับซัพพอร์ตการวิ่งมากมายในรองเท้าคู่นี้ ไม่ว่าจะเป็น ตัวฐานรองเท้าที่มีความหนา พร้อมด้วยส้นที่หนาด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ จะช่วยในการรับแรงกระแทกเวลาวิ่ง และที่พื้นรองเท้ายังมีไฟเบอร์คาร์บอนที่ช่วยในการเปลี่ยนทิศทางเวลาวิ่งได้อย่างนุ่มนวล ทำให้วิ่งได้ต่อเนื่องอย่างไม่มีสะดุด
เพิ่มเติมด้วยเทคโนโลยี PROFLY X ที่ช่วยในการออกตัวเวลาวิ่งได้อย่างยืดหยุ่นเสริมด้วยเทคโนโลยี Meta-Rocker ที่ช่วยรองรับจังหวะการวิ่งทุกอย่างก้าวอย่างมั่นคง และช่วยในเรื่องของการสปริงตัวอีกด้วย ทำให้วิ่งได้ดีมากขึ้น อีกทั้งผ้าส่วนอัปเปอร์ก็เป็นแบบผ้าตาข่ายที่ออกแบบพิเศษเพื่อช่วยในการระบายอากาศ พร้อมด้วยลิ้นรองเท้าที่เสริมความกระชับเท้าเวลาสวมใส่ และรองเท้ามีหน้าเท้ากว้าง ทำให้ใส่แล้วนิ้วเท้ารู้สึกสบายตัว สามารถขยับนิ้วเท้าไปมาได้ และไม่โดนบีบรัดอีกด้วย
และจากการที่ไปอ่านรีวิวของฝรั่งมา มีหลายคนบอกว่า ซื้อเพราะดีไซน์ที่สวย แปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร ถึงขนาดมีคนทักเลยว่า รองเท้าอะไรอ่ะ สวยมาก จะไปหาซื้อมาใส่บ้าง นอกจากเรื่องดีไซน์แล้ว เรื่องซัพพอร์ตการวิ่งก็ทำได้ดีอีกด้วย รองเท้าก็มีน้ำหนักเบาอีกด้วย แต่มีหลายคนบอกมาว่า ใส่แล้วสกปรกเร็วมาก และราคาค่อนข้างแพงครับ ใครที่อยากได้รองเท้าวิ่งที่ไม่ซ้ำใคร ต้องหา Hoka One One Carbon X มาใส่แล้ว
ราคาโดยประมาณ | 6,490 บาท |
การใช้งาน | วิ่งแข่งขัน |
ระยะทางในการวิ่ง | วิ่งประจำวัน, วิ่งระยะไกล, วิ่งมาราธอน |
น้ำหนักของรองเท้า | ผู้ชาย 247 g และ ผู้หญิง 204 g |
ความหนาจากส้นเท้าถึงปลายเท้า | ผู้ชาย 5 mm และ ผู้หญิง 5 mm |
ความหนาของส้นเท้าจากพื้น | ไม่มีข้อมูล |
ความหนาของปลายเท้าจากพื้น | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | ผู้ชาย Normal และ ผู้หญิง Normal |
วันที่วางจำหน่าย | Jun 2019 |
รองเท้าวิ่ง Nike React Infinity Run Flyknit
ถ้าใครชอบวิ่ง แต่เวลาวิ่งแล้ว ชอบมีอาการเจ็บปวดต่อร่างกายที่เกิดขึ้นจากการวิ่ง หรือมีอายุที่มากขึ้นแล้ว เราขอแนะนำให้ลองใช้รองเท้า Nike React Infinity Run Flyknit คู่นี้เลยครับ เพราะทาง Nike เคลมมาว่า เป็นรองเท้าที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดอาการบาดเจ็บโดยเฉพาะ ซึ่งทาง Nike เองก็ได้ไปทดสอบกับกลุ่มผู้ชายและผู้หญิงจำนวน 226 คน โดยให้พวกเขาใส่รองเท้าคู่นี้ ไปลงโปรแกรมการวิ่ง 12 สัปดาห์ พบว่า Nike React Infinity Run Flyknit ช่วยลดอาการบาดเจ็บได้ถึง 52% เลยครับ (รายละเอียดเชิงลึกต้องไปตามกันต่อที่เว็บไซด์ของ Nike )
ที่ช่วยลดอาการบาดเจ็บได้ดี เป็นเพราะว่า Nike ได้เพิ่มโฟมที่มากขึ้น โดยมีชั้นโฟมซ้อนกันสูง ซึ่งช่วยซัพพอร์ตเท้าและฝ่าเท้า โดยให้ความรู้สึกที่นุ่มสบายเท้ามากว่าเดิม มาพร้อมกับความกว้างที่มากขึ้นแต่กระชับ ทำให้การทรงตัวทำได้ดี โอกาสล้มจากการวิ่งน้อยลง และมีการออกแบบรายละเอียดตรงส่วนอัปเปอร์ให้ดีขึ้น โดยการเพิ่มเลเยอร์ถึง 3 ชั้น จึงช่วยให้กระชับเท้าและรู้สึกแน่นแบบสบาย ๆ เหมือนรองเท้าเป็นส่วนหนึ่งของเท้าเลยทีเดียว และพื้นรองเท้าเองก็มีปริมาณยางที่เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้พื้นรองเท้ามีความทนทาน และยึดเกาะพื้นผิวได้ดีครับ ดังนั้น ถ้าอยากวิ่งแบบยาว ๆ ถนอมร่างกาย และไม่ได้เร่งรีบมาก Nike React Infinity Run Flyknit ถือว่า เป็นตัวเลือกที่ดีเลยครับ
ราคาโดยประมาณ | 5,800 บาท |
การใช้งาน | ใส่ตลอดวัน, วิ่งจ็อกกิ้ง |
ระยะทางในการวิ่ง | วิ่งประจำวัน |
น้ำหนักของรองเท้า | ผู้ชาย 291 g และ ผู้หญิง 229 g |
ความหนาจากส้นเท้าถึงปลายเท้า | ผู้ชาย 9 mm และ ผู้หญิง 9 mm |
ความหนาของส้นเท้าจากพื้น | ผู้ชาย 30 mm และ ผู้หญิง 30 mm |
ความหนาของปลายเท้าจากพื้น | ผู้ชาย 21 mm และ ผู้หญิง 21 mm |
ความกว้าง | ผู้ชาย Normal และ ผู้หญิง Normal |
วันที่วางจำหน่าย | Jan 2020 |
รองเท้าวิ่ง Nike Joyride Run Flyknit
รองเท้าวิ่งอีก 1 ซีรีย์ที่น่าสนใจของ Nike คือ ซีรีย์ Joyride ที่ทาง Nike ได้เพิ่มนวัตกรรมตัวใหม่อย่าง “เม็ดโฟมขนาดจิ๋ว” เข้ามาไว้ใต้ฝ่าเท้า ซึ่งเจ้าพวกเม็ดโฟมพวกนี้ จะช่วยโอบรัดเข้ารูปตามเท้าของผู้สวมใส่ ทำให้เวลาใส่รองเท้าแล้ว ไม่ว่าจะยืน เดิน และวิ่ง ก็ทำได้อย่างมั่นคง รองเท้าไม่หลุด ไม่หลวม เท่านั้นยังไม่พอ เม็ดโฟมยังช่วยดูดซับแรงกระแทกได้ดีมาก ๆ จึงช่วยลดภาระที่จะเกิดขึ้นต่อฝ่าเท้า หัวเข่า และร่างกาย จึงทำให้วิ่งได้นานขึ้นด้วยครับ
และส่วนบนอัปเปอร์ของรองเท้าก็ทำมาจาก Flyknit ที่มีน้ำหนักเบา ช่วยห่อหุ้มหลังเท้าให้เข้าที่ และยังช่วยระบายอากาศได้ดีอีกด้วย ทำให้เวลาวิ่งแล้ว เท้าของเราจะไม่รู้สึกร้อนจนเกินไป ส่วนพื้นรองเท้าก็ทำมาจากยางคุณภาพดี ที่มีความทนทาน และลดการสึกหรอของรองเท้าในจุดที่ถูกกระแทกเป็นประจำ อีกทั้งด้วยปุ่มที่ยกสูงขึ้น ก็ช่วยในการยึดเกาะท้องถนนอีกด้วย แต่รองเท้าคู่นี้ ถูกปรับแต่งมาให้ค่อนข้างมีความพอดีกับขนาดเท้ามาก ๆ ถ้าอยากจะใส่ให้สบายมากขึ้น ทาง Nike แนะนำมาว่า ควรจะสั่งซื้อรองเท้าไซส์ใหญ่กว่าเดิมครึ่งไซส์ครับ
ราคาโดยประมาณ | 6,100 บาท |
การใช้งาน | ใส่ตลอดวัน, วิ่งจ็อกกิ้ง |
ระยะทางในการวิ่ง | วิ่งประจำวัน, วิ่งระยะไกล, วิ่งมาราธอน |
น้ำหนักของรองเท้า | ผู้ชาย 337 g และ ผู้หญิง 337 g |
ความหนาจากส้นเท้าถึงปลายเท้า | ผู้ชาย 3 mm และ ผู้หญิง 3 mm |
ความหนาของส้นเท้าจากพื้น | ผู้ชาย 21 mm และ ผู้หญิง 21 mm |
ความหนาของปลายเท้าจากพื้น | ผู้ชาย 18 mm และ ผู้หญิง 21 mm |
ความกว้าง | ผู้ชาย Normal และ ผู้หญิง Normal |
วันที่วางจำหน่าย | Aug 2019 |
รองเท้าวิ่ง New Balance Fresh Foam 1080 v10
รองเท้าวิ่ง New Balance Fresh Foam 1080 v10 เป็นรองเท้าวิ่งที่ทาง New Balance ได้เคลมมาว่า ก่อนที่จะออกแบบรองเท้าคู่นี้ขึ้นมา ได้ทำการรวบรวมข้อมูลจากบรรดานักวิ่งหลายคนว่า มีความต้องการอะไร อยากให้รองเท้าวิ่งมีดีตรงไหน ทำอะไรได้บ้าง หลังจากนั้นทางแบรนด์จึงออกแบบผลิตรองเท้าวิ่งคู่นี้ขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์นักวิ่งให้ได้มากที่สุดครับ
โดยจุดเด่นหลักจะอยู่ที่ การใส่เทคโนโลยี Fresh Foam ยาวตลอดแนวเท้า ที่ช่วยซัพพอร์ต รองรับแรงกระแทกเวลาวิ่ง และเพิ่มความนุ่มสบายเท้าเวลาสวมใส่ ส่วนพื้นรองเท้าด้านนอกเป็นยางคุณภาพดี ที่ช่วยในการยึดเกาะพื้นผิว ไม่ให้ลื่นไหลได้ง่าย ๆ เพิ่มเติมด้วยพื้นรองเท้าส่วนบน Ortholite® ที่ช่วยซัพพอร์ตเท้าให้ดียิ่งขึ้นเวลาวิ่ง และยังมี Hypoknit ตรงส่วนอัปเปอร์ที่ช่วยกระชับให้เข้ากับรูปเท้ามากที่สุด วิ่งแล้วรองเท้าไม่มีคำว่าหลุดแน่นอน ใครที่อยากได้รองเท้าวิ่งแบรนด์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่ adidas หรือ Nika รองเท้าวิ่ง New Balance Fresh Foam 1080 v10 คู่นี้ อาจจะเป็นรองเท้าที่กำลังตามหาอยู่ครับ
ราคาโดยประมาณ | 3,850 บาท |
การใช้งาน | ใส่ตลอดวัน, วิ่งจ็อกกิ้ง |
ระยะทางในการวิ่ง | วิ่งประจำวัน, วิ่งระยะไกล, วิ่งมาราธอน |
น้ำหนักของรองเท้า | ผู้ชาย 281 g และ ผู้หญิง 238 g |
ความหนาจากส้นเท้าถึงปลายเท้า | ผู้ชาย 8 mm และ ผู้หญิง 8 mm |
ความหนาของส้นเท้าจากพื้น | ผู้ชาย 29 mm และ ผู้หญิง 29 mm |
ความหนาของปลายเท้าจากพื้น | ผู้ชาย 21 mm และ ผู้หญิง 21 mm |
ความกว้าง | ผู้ชาย Narrow, Normal, Wide, X-Wide และ ผู้หญิง Narrow, Normal, Wide, X-Wide |
วันที่วางจำหน่าย | Dec 2019 |