ต่อไปเราจะมาแนะนำ รองเท้าวิ่ง 10 คู่ ที่ทางผมอยากให้ทุกคนได้ลองดูว่า รองเท้าที่เอามาแนะนำนั้นจะมีคู่ไหนถูกอกถูกใจทุกคนบ้าง โดยที่รองเท้าที่นำมาเสนอได้คัดจากความน่าเชื่อถือของแบรนด์ คะแนนของผู้ใช้จริง และการอ่านรีวิวต่าง ๆ ไปดูกัน
รองเท้าวิ่ง Brooks Ghost 12
ด้วยความนิยมเป็นอย่างมากของ BrooksGhost 11 ที่นักวิ่งหลาย ๆ คนต่างเทใจให้อย่างล้นหลาม ทำให้ทาง Brooks เอง ตัดสินใจพัฒนารองเท้าวิ่งให้ดีขึ้น กลายมาเป็น BrooksGhost 12 ที่มีน้ำหนักรองเท้าที่เบามากว่าเดิม และยังคงมีจุดเด่นหลัก ๆ ของซีรีย์ Ghost ไม่ว่าจะเป็น พื้นรองเท้าชั้นกลาง BioMoGo DNA และแผ่นโฟม DNA LOFT ที่ออกแบบมาสำหรับรองรับเท้าโดยเฉพาะ ทำให้มีความนุ่มสบายเท้าเวลาสวมใส่ และยังเด้งตอบสนองเวลาเท้าวิ่งลงพื้นได้ดี รู้สึกได้ถึงการสปริงตัวเวลาวิ่ง ทำให้วิ่งได้ดีขึ้น สนุกขึ้น และไวมากขึ้นอีกด้วย และยังเสริม Crash Pad ที่จะมาช่วยดูดซับแรงกระแทกได้อย่างนุ่มนวล ไม่ให้เท้ารับภาระมากจนเกินไป
พร้อมด้วยพื้นรองเท้าชั้นนอกที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับพื้นทุกสภาพผิว ช่วยในการยึดเกาะ และลดแรงกระแทกตั้งแต่ชั้นแรกจนถึงชั้นสุดท้าย ไม่ว่าจะวิ่งบนพื้นผิวแบบไหน Ghost12 ก็เอาอยู่ สุดท้ายด้วยส่วนบนผ้าตาข่ายที่มีเทคโนโลยี 3D Fit Print เป็นผ้าที่มีความนุ่มและช่วยในการกระชับเท้า วิ่งแล้วรู้สึกสบายต่อเท้าและรองเท้าไม่หลุด อีกทั้งยังระบายอากาศได้ดี ไม่ทำให้เท้าเหม็นอับและร้อนอีกด้วย มีนักวิ่งหลายคนเลยที่ได้ลอง และต่างบอกกันว่า รองเท้าออกแบบมาเพื่อการวิ่งจริง ๆ ใส่วิ่งแล้วสนุกมาก เหมือนจะวิ่งได้ดีขึ้น ไกลขึ้นด้วย แต่ก็มีบ้างส่วนติมาว่า รูปแบบดีไซน์ไม่ค่อยสวยเท่าไร และตรงส่วนปลายรองเท้ามีพื้นที่น้อยไปหน่อย คนเท้าใหญ่ใส่แล้ว ตรงนิ้วเท้ารู้สึกแออัด ไม่สบายนิ้วเท้าเท่าที่ควรครับ
ราคาโดยประมาณ | 3,780 บาท |
การใช้งาน | ใส่ตลอดวัน, วิ่งจ็อกกิ้ง |
ระยะทางในการวิ่ง | วิ่งประจำวัน, วิ่งระยะไกล, วิ่งมาราธอน |
น้ำหนักของรองเท้า | ผู้ชาย 295 g และ ผู้หญิง 264 g |
ความหนาจากส้นเท้าถึงปลายเท้า | ผู้ชาย 12 mm และ ผู้หญิง 12 mm |
ความหนาของส้นเท้าจากพื้น | ผู้ชาย 31 mm และ ผู้หญิง 31 mm |
ความหนาของปลายเท้าจากพื้น | ผู้ชาย 19 mm และ ผู้หญิง 19 mm |
ความกว้าง | ผู้ชาย Narrow, Normal, Wide, X-Wide และ ผู้หญิง Narrow, Normal, Wide |
วันที่วางจำหน่าย | July 2019 |
รองเท้าวิ่ง adidas Ultraboost 19
ถ้าพูดถึงรองเท้าวิ่ง ต้องมีแบรนด์ Adidas กันอย่างแน่นอน เราขอแนะนำรุ่น Adidas Ultraboost 19 ซึ่งเป็นรองเท้าวิ่งซีรีย์ของ adidas ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และที่มีดีไซน์ที่โดนเด่น ไม่ซ้ำใคร ดูแล้วเหมือนกับไม่ใช่รองเท้าวิ่งเหมือนกันนะครับ เหมือนเป็นรองเท้าสำหรับใส่เล่นไลฟ์สไตล์ทั่วไปมากกว่า แต่ด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่ในรองเท้าอย่างมากมาย ทำให้รองเท้าคู่นี้ ทำออกมาสำหรับการวิ่งอย่างแน่นอน
โดยทาง Adidas เคลมมาว่า เป็นรองเท้าที่ถูกออกแบบขึ้นมาใหม่ เพื่อให้นักวิ่งได้รับประสบการณ์ในการวิ่งที่มีความเบาสบายแบบสุด ๆ และในการวิ่งแต่ละครั้ง จะรู้สึกได้ถึงการเด้งตัวกลับคืนมาเวลารองเท้ากระทบพื้น เพราะตัวพื้นรองเท้าจะช่วยในการสปริงเวลาวิ่ง ช่วยให้ออมแรงในการวิ่งได้มากขึ้น ทำให้วิ่งได้ไกลขึ้นและสบายมากขึ้น อีกทั้งตัวส่วนบนของหลังเท้าก็ถูกออกแบบมาด้วย Motion Weave ที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อเท้าและช่วยประคองเท้าตลอดการวิ่ง พร้อมด้วยผนังรองเท้าชั้นที่สอง ที่จะปรับรูปร่างเข้ากับเท้าเพื่อช่วยบรรเทาการบีบอัดแน่นที่บริเวณเท้าอีกด้วย
เป็นรองเท้าที่หลายคนบอกว่า ทำออกมาได้ดีกว่ารุ่นก่อน ๆ ตัดสินใจไม่ผิดที่ซื้อมาใส่วิ่ง พื้นรองเท้าตอบสนองต่อการวิ่งได้ดี และส่วนบนหลังเท้าทำออกมาได้แข็งแรงทนทาน ใส่แล้วไม่รู้สึกปวดเท้าเลย แต่ก็มีหลายคนไม่ชอบตรง สีสันของรองเท้าที่ทำออกมาแปลก ๆ ไม่ค่อยสวย ส่วนผนังด้านข้างของรองเท้ายังไม่ค่อยกระชับกับเท้า ทำให้เวลาวิ่งแอบโซเซอยู่บ้าง และราคาตอนเปิดตัวแอบแรงเอาเรื่องใช้ได้เลย แต่ด้วยการมาของ รุ่น 20 ทำให้ราคาลดลงมา ใครที่กำลังเล็ง ๆ Adidas Ultraboost 19 น่าจะถึงเวลาที่จะไปหามาครอบครองกันแล้วครับ
ราคาโดยประมาณ | 3,250 บาท |
การใช้งาน | ใส่ตลอดวัน, วิ่งจ็อกกิ้ง |
ระยะทางในการวิ่ง | วิ่งประจำวัน, วิ่งระยะไกล, วิ่งมาราธอน |
น้ำหนักของรองเท้า | ผู้ชาย 309 g และ ผู้หญิง 269 g |
ความหนาจากส้นเท้าถึงปลายเท้า | ผู้ชาย 10 mm และ ผู้หญิง 10 mm |
ความหนาของส้นเท้าจากพื้น | ผู้ชาย 29 mm และ ผู้หญิง 29 mm |
ความหนาของปลายเท้าจากพื้น | ผู้ชาย 19 mm และ ผู้หญิง 19 mm |
ความกว้าง | ผู้ชาย Normal และ ผู้หญิง Normal |
วันที่วางจำหน่าย | Feb 2019 |
รองเท้าวิ่ง adidas Ultraboost 20
ก่อนหน้านี้ เราได้แนะนำ Ultraboost 19 กันไปแล้ว มาคราวนี้ ก็ต้องขอพูดถึง Ultraboost 20 กันบ้าง ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดของซีรีย์ Ultraboost ครับ โดยที่ยังคงมีดีไซน์แปลก ๆ เป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใครเช่นเดิม และมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่จะช่วยให้การวิ่งของคุณทำได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น พื้นร้องเท้าชั้นนอกแบบ Stretchweb ที่ผลิตจากยาง Continental™ มีความทนทานและยืดหยุ่น และยังช่วยในการสปริงตัว และรู้สึกเด้งดึ้งเวลาวิ่ง จึงทำให้วิ่งได้นาน ได้ไกล และวิ่งได้ดีขึ้น
เพิ่มเติมความนุ่มสบายเวลาสวมใส่ด้วย เกราะอีลาสเตนบริเวณส้นรองเท้า ที่ช่วยดูดซับแรงกระแทก ไม่ให้เท้ารับภาระมากจนเกินไป และมีส่วนอัปเปอร์ที่เป็นแบบผ้าถัก adidas Primeknit+ ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ adidas ที่ช่วยซัพพอร์ตและโอบกระชับเท้าราวกับสวมถุงเท้าที่เบาสบาย และเนื่องจากเป็นผ้าถักแบบตาข่าย จึงช่วยระบายความร้อนได้ดีอีกด้วย เสริมด้วยเทคโนโลยี Tailored Fibre Placement ที่ช่วยล็อคกระชับเท้า ไม่ให้เวลาวิ่งแล้วรองเท้าหลุด ไม่ว่าจะวิ่งช้า ปานกลาง หรือเร็วก็ตาม และสีสันก็มีให้เลือกมากมายกันถึง 24 สีเลยทีเดียว ใครชอบสีไหนแบบไหน จัดไปครับ
และจากการที่ได้ไปอ่านรีวิวของรองเท้าคู่นี้จากหลาย ๆ คนที่ได้ซื้อไปใช้งาน ต่างก็บอกกันว่า ใส่แล้วเบาสบายมาก รู้สึกว่าคุ้มค่าที่ซื้อมาใส่ ไม่ว่าจะใส่วิ่ง หรือใส่เล่นทั่วไปก็ทำได้ดี แต่มีบ้างส่วนไม่ชอบตรงลิ้นของรองเท้าที่เวลาใส่แล้ว ทำให้อึดอันตรงส่วนบนฝ่าเท้าครับ และราคาค่อนข้างแรงอยู่ ถ้าใครที่คิดว่างบไม่ใช่ปัญหา แล้วอยากได้รองเท้าวิ่งดี ๆ สักคู่ ต้องลอง adidas Ultraboost 20 แล้วครับ
ราคาโดยประมาณ | 6,500 บาท |
การใช้งาน | ใส่ตลอดวัน, วิ่งจ็อกกิ้ง |
ระยะทางในการวิ่ง | วิ่งประจำวัน, วิ่งระยะไกล, วิ่งมาราธอน |
น้ำหนักของรองเท้า | ผู้ชาย 310 g และ ผู้หญิง 310 g |
ความหนาจากส้นเท้าถึงปลายเท้า | ผู้ชาย 10 mm และ ผู้หญิง 10 mm |
ความหนาของส้นเท้าจากพื้น | ผู้ชาย 22 mm และ ผู้หญิง 22 mm |
ความหนาของปลายเท้าจากพื้น | ผู้ชาย 12 mm และ ผู้หญิง 12 mm |
ความกว้าง | ผู้ชาย Normal และ ผู้หญิง Normal |
วันที่วางจำหน่าย | Dec 2019 |
รองเท้าวิ่ง Nike Air Zoom Pegasus 37
ได้เห็นรองเท้าวิ่งของ adidas กันไปบ้างแล้ว จะพลาดรองเท้าวิ่งของแบรนด์คู่แข่งไปได้อย่างไร กับแบรนด์ Nike ที่เป็นแบรนด์ที่มีหลายคนบอกเลยว่า ถ้าเรื่องการวิ่ง ต้องยกให้กับรองเท้าแบรนด์นี้เลยครับ โดยรองเท้าวิ่งของ Nike ก็มีหลายซีรีย์ด้วยกัน ซึ่งซีรีย์รองเท้าวิ่งที่ได้รับที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ ซีรีย์ Air Zoom Pegasus ที่ขายดี ฮิตใช้กันมาก จนออกมากันหลายรุ่น โดยรุ่นล่าสุดคือ รุ่น 37 ครับ
Nike Air Zoom Pegasus 37 เป็นรุ่นที่ถูกพัฒนามากกว่ารุ่นก่อน ๆ โดยการเสริมจุดเด่นในเรื่องของ Air Zoom ที่ปลายเท้า โดยทำให้มีขนาดใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 2 เท่า จึงช่วยดูดซับและลดแรงกระแทกเวลาวิ่งลงปลายเท้าได้ดีกว่าเดิม และยังช่วยในเรื่องของการสปริงตัว จึงออกตัววิ่งได้ไวและวิ่งได้เร็วมากขึ้น เพิ่มเติมด้วยโฟม Nike React ตรงพื้นรองเท้าชั้นกลาง ซึ่งเป็นโฟมที่มีน้ำหนักเบา แต่ทนทาน และยังช่วยให้พื้นรองเท้ากับเท้าแนบชิดกันมากยิ่งขึ้น ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าไม่ได้สวมรองเท้าอยู่เลย รองเท้าและเท้ากลายมาเป็นหนึ่งเดียวกันครับ
ส่วนเรื่องดีไซน์ของรองเท้าวิ่ง ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องครับ เพราะมีดีไซน์ที่สวย ทรงดูทะมัดทะแมง และสวมใส่แล้วเหมือนวิ่งเพรียวลม ตรงส่วนอัปเปอร์ก็ทำมาให้ดูโปร่งแสง แบบเป็นตาข่าย ที่ช่วยกระชับเท้าและระบายอากาศได้ดี อีกทั้งจากการไปอ่านรีวิวของหลาย ๆ คน พวกเขาบอกว่า รองเท้าซัพพอร์ตเท้าได้ดีมาก รองเท้าก็น้ำหนักเบา ใส่แล้วสบายเท้า จะใส่ไปวิ่ง หรือเที่ยวเล่นก็ทำได้ดี แต่มีหลายคนที่เท้าค่อนข้างใหญ่ บอกมาว่า ใส่รองเท้าคู่นี้แล้วคับมาก แน่นเต็มเท้าไปหมด อาจจะต้องซื้อเบอร์ที่ใหญ่กว่าเท้าตัวเองอีกครึ่งเบอร์
รองเท้าวิ่ง adidas 4D RUN 1.0
รองเท้าวิ่งของ adidas ที่น่าสนใจไม่ได้มีแต่ซีรีย์ Ultraboost นะครับ ยังมีซีรีย์อื่น ๆ อีกเพียบ แต่ซีรีย์ที่เราอยากจะแนะนำคือ ซีรีย์ 4D RUN 1.0 โดยรองเท้าในซีรีย์นี้ ก่อนอื่นขอบอกเลยว่า ราคาโหดมากครับ ถ้าคิดว่า Ultraboost ราคาโหดแล้ว 4D RUN ยังแซงหน้าได้อีก เนื่องมาจาก เป็นรองเท้าวิ่งที่ถูกออกแบบมาจาก การรวบรวมประสบการณ์การวิ่งของนักกีฬามืออาชีพถึง 4,000 คน เพื่อนำมาลบจุดด้อย เพิ่มจุดเด่น และพัฒนาให้เป็นรองเท้าวิ่งที่ดีที่สุดของ adidas ครับ
โดยรองเท้าคู่นี้ มีเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น พื้นชั้นกลาง adidas 4D ที่พิมพ์ขึ้นด้วยของเหลวแบบสามมิติ ช่วยในการรองรับเท้าและเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่ง พร้อมด้วยส่วนบนอัปเปอร์ที่ทำมาจาก Primeblue ซึ่งมีส่วนประกอบของ Parley Ocean Plastic™ โดยเป็นผ้าในรูปแบบใหม่ของ adidas ที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อต้องการลดปริมาณขยะพลาสติกบนโลกใบนี้ พูดง่าย ๆ ว่า เป็นการนำขยะพลาสติกมารีไซเคิลเป็นรองเท้านั้นเอง ถ้าซื้อรองเท้าคู่นี้มาใช้ นอกจากจะได้รองเท้าวิ่งที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพแล้ว ยังได้ช่วยลดขยะไปด้วยในตัวครับ
ถึงแม้ว่า จะเป็นรองเท้าที่ทำขึ้นมาจากขยะพลาสติก แต่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่อง ประสิทธิภาพในการวิ่งเลยครับ เพราะมีผู้ใช้หลายรายเลยบอกว่า เป็นรองเท้าที่สวมใส่แล้วรู้สึกเบาสบายมาก ไม่อัดอัน ไม่คับเลย และเวลาตอนวิ่งรู้สึกถึงการสปริงตัวที่ดีมาก ช่วยออมแรงในการวิ่งได้ดี ทำให้วิ่งได้ระยะไกลขึ้นด้วย และตรงเบาะรองเท้าก็นุ่มสบายเท้า ทั้งยังช่วยซัพพอร์ตเท้าได้ดี ใส่วันสบาย ๆ ก็ได้ด้วย แต่ก็มีหลายคนบอกมาเช่นกันว่า รองเท้าค่อนข้างหนักกว่าคู่อื่น ๆ และที่สำคัญสุดคือ ราคาโหดมาก จึงเป็นรองเท้าที่เหมาะกับคนที่อยากได้และงบถึงจริง ๆ ครับ
ราคาโดยประมาณ | 7,300 บาท |
การใช้งาน | ใส่ตลอดวัน, วิ่งจ็อกกิ้ง |
ระยะทางในการวิ่ง | วิ่งประจำวัน, วิ่งระยะไกล, วิ่งมาราธอน |
น้ำหนักของรองเท้า | ผู้ชาย 366 g และ ผู้หญิง 366 g |
ความหนาจากส้นเท้าถึงปลายเท้า | ผู้ชาย 9.5 mm และ ผู้หญิง 9.5 mm |
ความหนาของส้นเท้าจากพื้น | ไม่มีข้อมูล |
ความหนาของปลายเท้าจากพื้น | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | ผู้ชาย Normal และ ผู้หญิง Normal |
วันที่วางจำหน่าย | Feb 2020 |