หลังจากที่มีรูปภาพหลุดออกมาเรื่อยๆ และนักวิ่ง Elite ได้ใส่ออกสื่อมาในวันเดียวกันกับไนกี้เปิดตัวบนเว็บไซต์ทั่วโลกโดยใช้ชื่อว่า Nike ZoomX Vaporfly NEXT% แทนที่จะเป็น Vaporfly 5%

ทำไมถึงเป็น NEXT%?

โดยที่มาของชื่อ NEXT% มาจากที่ว่า Nike Zoom Vaporfly 4% นั้นเป็นรองเท้าวิ่งที่ดีมาก ช่วยให้วิ่งได้ดีขึ้น 4% เป็นรองเท้าสำหรับการวิ่งมาราธอนที่ดีที่สุดของไนกี้ในช่วงที่ผ่านมา ทางทีมไนกี้ก็ได้เกิดคำถามว่าจะทำรองเท้าที่ดีขึ้น เร็วขึ้น น้ำหนักเบากว่านี้ได้อีกไหม และแล้วก็ได้รองเท้าคู่นี้ออกมาที่เป็นรองเท้าวิ่งที่เร็วที่สุดของไนกี้ในตอนนี้ อีกทั้งทางเซอร์ Mo Farah พูดว่า “As an athlete, you’re always looking for that next percent.” จึงเป็นที่มาของชื่อนี้นั่นเอง

การเปลี่ยนแปลงใน Vaporfly NEXT%

ส่วนบนเปลี่ยนจากผ้าถัก Flyknit มาเป็น Nike Vaporweave (ก่อนหน้านี้เรียกกันว่า NEXKIN) น้ำหนักเบากว่าเดิม มีความแข็งแรง และระบายอากาศได้ดี อมน้ำจากเหงื่อและฝนตกน้อยลง ทำให้รองเท้ายังคงมีน้ำหนักที่เบาและแห้งตลอดการวิ่งมาราธอน

ดีไซน์มีการใช้สีเขียวสดและ Swoosh ตัวใหญ่คาดตั้งแต่แถว Toe box และมีใช้เชือกที่เอียงหลบหน้าเท้าที่ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดทำได้ดีขึ้นเมื่อมีการมัดเชือกแน่น หน้าตารวมๆ ก็ดูเหมือนรองเท้าสตั๊ด Nike Mercurial Vapor อยู่ไม่น้อย

และยังมีการเพิ่มโฟมด้านในตรงส้นเท้าเพื่อช่วยให้การล็อคเท้าและความนุ่มสบายส้นเท้าตลอดการวิ่ง

พื้นชั้นกลาง มีการเพิ่มโฟม ZoomX มากขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 15% แต่มีน้ำหนักเท่าเดิม เพื่อให้การส่งแรงกลับได้ดีขึ้น และเพิ่มการดูดซับแรงกระแทกเพิ่มมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ยังมีการลดดรอปลง จากเดิมดรอป 11mm มาเป็น 8mm เพื่อการวิ่งที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น ยังคงมีแผ่นรองคาร์บอนไฟเบอร์เต็มความยาวเท้าเพื่อช่วยในการเร่งความเร็วอยู่

พื้นชั้นนอกมีการนำคอนเซ็ปของ Vaporfly Elite มาใช้ เพิ่มร่องแบบใหม่ที่โอบรับลึกกว่า เพื่อเสริมการยึดเกาะ การเลี้ยว การเปลี่ยนทิศทำได้ดีขึ้น

ราคาและการวางจำหน่าย

ราคา $275 หรือประมาณ 8,800 บาท (ยังไม่รวมภาษี) แพงขึ้นจากราคาเดิมที่ $250 จะเปิดวางจำหน่ายวันที่ 25 เมษายนนี้ที่ ลอนดอน ก่อน และเปิดให้ซื้อผ่านแอพ NRC ในวันที่ 28 เมษายนนี้ น่าเสียดายแค่ที่ US เท่านั้น ประเทศไทยอดทนรอกันไปก่อนนะ